โปรแกรมป้องกันไวรัสชั้นนำของโลกสำหรับองค์กร ระบบคลาวด์ อยู่ที่ไหนในโลกก็ทำงานได้ คุมสาขาทั่วโลก ได้จากหน้าจอเดียว ใหญ่แค่ไหนก็เอาอยู่ ด้วย Acronis, Avast, AVG, Bitdefender, CheckPoint, Crownstrike, Xcitium (Comodo), FortiClient, F-Secure, Heimdal, Kaspersky, Malwarebytes, McAfee, Sangfor, SentinelOne, Sophos, Symantec, Trend Micro, Vipre, Watchguard (Panda) และ Webroot


โปรแกรมป้องกันไวรัส ของมันต้องมี
Cyber Security จำเป็นสำหรับทุกองค์กร
โปรแกรมป้องกันไวรัส ช่วยท่านปลอดภัย
อย่าเสี่ยงกับของฟรี ของถูก ไม่คุ้มเลย
อย่าเปิดทางให้แรนซั่มแวร์ ลงทุนหลักหมื่น ดีกว่าเสียเป็นล้าน
Antivirus สำหรับองค์กรธุรกิจ ต้องที่นี่ Antivirus Thailand เท่านั้น เราขายโปรแกรมป้องกันไวรัส สำหรับองค์กรทุกระดับ กว่า 20 แบรนด์ชั้นนำของโลก ตั้งแต่ โปรแกรมป้องกันไวรัส Acronis, Avast, AVG, Bitdefender, CheckPoint, Comodo, Crownstrike, F-Secure, FortiClient, Heimdal, Kaspersky, Malwarebytes, McAfee, Panda, Sangfor, Sophos, Symantec, Trend Micro ,Vipre, Webroot และโปรแกรมสำรองข้อมูล AOMEI Backupper

Antivirus Thailand ขายโปรแกรมแอนตี้ไวรัส เราขายแต่แบบ endpoint security หรือการบริหารควบคุมการทำงานแบบ client / server มีให้ท่านเลือกทั้งแบบ on-premise ที่ลงบนเครื่องเซอร์ฟเวอร์จริง หรือเสมือน และแบบ on-cloud ที่ไม่ต้องเปลืองเครื่องเซอร์ฟเวอร์สำหรับควบคุม เพียงแต่เครื่องลูกสามารถออกเน็ตได้เท่านั้น โปรแกรมป้องกันไวรัส เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับองค์กร อย่างยิ่ง เพราะข้อมูลธุรกิจนั้น มีมูลค่านับไม่ถ้วน จึงสำคัญยิ่งกว่าอื่นใด เรามีโปรแกรมป้องกันไวรัส ให้ท่านเลือกใช้งาน ตามความต้องการ และงบประมาณของท่าน อย่าลืมว่า การป้องกันทางไซเบอร์เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับยุคนี้ จึงต้องเตรียมพร้อมเสมอ ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน แม้แต่การสำรองข้อมูล ก็เป็นเรื่องจำเป็นสำหรับผู้บริหารระบบทุกคน เช่นเดียวกัน ขอแนะนำเว็บ www.iobackup.com ที่ให้ข้อมูลสำหรับการสำรองข้อมูลโดยเฉพาะ

ราคามาตรฐาน ทั้งซื้อใหม่ ย้ายค่าย หรือต่ออายุ องค์กรชั้นนำต่างมั่นใจสั่งซื้อกับเราที่นี่อย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี เราให้ท่านได้ครบทุกความต้องการ แอนตี้ไวรัส ประเทศไทยเท่านั้น รวมไว้ให้ท่านเลือก ที่นี่ที่เดียวเท่านั้น ไม่ต้องขอเปรียบเทียบหลายแห่ง มั่นใจได้ว่าจะได้ราคาที่ถูกที่สุดแน่นอน เพียงขอให้ท่านให้เกียรติเราได้เป็นแห่งแรกที่ได้เสนอราคากับท่านเท่านั้น ANTIVIRUSTHAILAND.COM

องค์กรไหน ถ้ายังใช้ของฟรีอยู่ ได้เวลาลงทุนกันบ้างแล้ว
เป็นที่น่าตกใจเป็นอย่างยิ่ง ที่พบว่า องค์กรบางแห่งยังใช้โปรแกรมแจกฟรีอยู่ ซึ่งมีคุณสมบัติในการป้องกันที่ต่ำ หรือ นำเอาโปรแกรมป้องกันไวรัส แบบใช้ตามบ้าน มาลงใช้ในองค์กร ซึ่งไม่สามารถบริหารจัดการอะไรได้เลย เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง ที่ผู้บริหาร หรือเจ้าของกิจการบางแห่ง ไม่ยอมลงทุน หรือเห็นความสำคัญตรงนี้ และจะมาเริ่มเห็นความสำคัญ ก็ตอนที่โดนแรนซั่มแวร์ เข้ารหัสและเรียกค่าไถ่ ไปแล้วเท่านั้น ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้น ก็แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว

จากสถิติ การโจมตีทางไซเบอร์ เกิดขึ้นทุกวินาทีทั่วโลก ข้อมูลในเครื่องของท่าน นับเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง หากปล่อยให้โทรจันเรียกค่าไถ่ มารันบนเครื่องของท่าน แล้วเข้ารหัสล๊อคหมด ถึงตอนนั้น ไม่มีทางแก้ไขอะไรได้เลย ควรอย่างยิ่ง ที่ต้องจัดระบบเรื่องความปลอดภัยทางไซเบอร๋ เป็นความสำคัญระดับแรก เพียงเครื่องละไม่กี่ร้อยบาทต่อปี แต่ทำให้มั่นใจจากการถูกโจมตีได้ นับเป็นสิ่งที่ควรทำเป็นอันดับแรก สำหรับผู้ประกอบการทุกคน และผู้บริหารระบบทุกคน

เลือกโปรแกรมป้องกันไวรัส ที่เหมาะกับท่านดังนี้

หากท่านกำลังมองหาโปรแกรมป้องกันไวรัส สำหรับองค์กรธุรกิจ ท่านมาได้ถูกที่แล้ว ท่านสามารถเลือกเฉพาะคุณสมบัติที่ท่านต้องการใช้งานในองค์กร เนื่องจากโปรแกรมแต่ละยี่ห้อ มีคุณสมบัติ และราคาให้เลือกมากมาย จึงอาจทำให้ท่านสับสนในการเลือก โปรแกรมที่เหมาะสม กับความต้องการใช้งานของท่านได้ เราจึงได้ทำตารางสรุป คุณสมบัติ เด่นๆ ของโปรแกรมป้องกันไวรัสชั้นนำ มาให้ท่านได้เลือก และง่ายต่อการตัดสินใจดังนี้
หากท่านกำลังมองหา คุณสมบัติพื้นฐานทั่วไป เช่น

On-Cloud - ทำงานบนคลาวด์

ทำงานบนคลาวด์
On cloud
ท่านอาจจะสงสัยว่า แล้วโปรแกรมแอนตี้ไวรัส ทำงานบนระบบคลาวด์อย่างไร ระบบคลาวด์ ท่านไม่จำเป็นต้องติดตั้งระบบควบคุมส่วนกลางที่เซอร์ฟเวอร์เลย การทำงานบนพื้นฐานของระบบคลาวด์นั้น ให้ความสะดวกสบายในการบริหารจัดการหลายอย่าง เหมาะสำหรับกิจการที่มีหลายสาขา หรือขนาดเล็ก ถึงขนาดใหญ่ ผู้ดูแลระบบเพียงแค่ล๊อคอินผ่านเว็บบราวเซอร์ จากที่ไหนก็ได้ ก็สามารถบริหารเครือข่ายได้แล้ว มีข้อจำกัดเพียงอย่างเดียวคือ ทุกเครื่อง ต้องสามารถออกเน็ตได้เท่านั้น แต่กระนั้นก็ตาม หากมีเครื่องบางเครื่อง ไม่สามารถต่อเน็ตได้ ก็สามารถกำหนดเครื่องใดเครื่องหนึ่งในวงให้ทำหน้าที่เป็น proxy ได้ โดยอาจจะกำหนดให้เครื่อง proxy ออกเน็ตไปอัปเตตได้ตามกำหนดเวลา ก็ได้เช่นกัน ตอนนี้ ทุกยี่ห้อทำงานบนตลาวด์ได้หมด ยกเว้นบางรุ่น เช่น Kaspersky , Bitdefender กับ Symantec รุ่นเริ่มต้น เป็นต้น

On-premise - แบบติดตั้งที่เครื่องเซอร์ฟเวอร์

ทำงานบนสถานที่ตั้ง
On Premise
การบริหารจัดการโดยผ่านเครื่องแม่ข่าย ในวงแลนเดียวกัน จะเหมาะสำหรับเครื่องตั้งโต๊ะ ที่อยู่กับที่ หรือ การใช้งานในโรงงาน ที่ไม่มีการออกเน็ต โดยการอัปเดต และการบริหารงานเครือข่ายทุกอย่าง ต้องผ่านคอนโซลของเครื่องเซอร์ฟเวอร์เท่านั้น ข้อดีคือ สามารถดูแลได้อย่างใกล้ชิด เพราะเป็นเครื่องตั้งโต๊ะ ในวงแลนเดียวกัน โดเมนเดียวกัน สามารถปรับแต่งได้อย่างละเอียด กว่าระบบคลาวด์ แต่ข้อเสีย ก็คือ ต้องเปิดเครื่องแม่ข่ายไว้ตลอดเวลา และผู้ดูแลระบบต้องบริหารจัดการผ่านคอนโซลหน้าเครื่องเท่านั้น ยี่ห้อ และรุ่น ที่ทำงานแบบ on-premise คือ
  1. Bitdefender GravityZone Business Security (รุ่นนี้เลือกได้ทั้งแบบ on-premise หรือ on-cloud)
  2. Check Point Harmony Basic , Advanced (ต้องซื้อตัวบริหารจัดการเพิ่ม สำหรับ on-premise)
  3. Kaspersky Endpoint Security for Business - Select, Advanced
  4. McAfee MVision (ติดตั้ง ePo)
  5. Sangfor Endpoint Secure - Essential, ULTIMATE
  6. Symantec Endpoint Protection

Web Filtering - ความสามารถในการกรองเว็บต่างๆ

กรองการเข้าเว็บไซต์ได้
Web Filtering
การควบคุมการใช้งานการเข้าเว็บไซต์ต่างๆ และลิ้งค์ที่ไม่ได้รับอนุญาต การใช้งานระบบนี้ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานในองค์กร ได้เป็นอย่างดีย่ิง ตัวอย่างเช่น การไม่อนุญาตให้พนักงานเปิด Youtube เว็บการพนัน เว็บหางาน เป็นต้น โปรแกรมแอนตี้ไวรัสหลายค่าย ได้ทำตรงนี้ให้ เพื่ออำนวยความสะดวก ในการทำงานในองค์กรเป็นอย่างดียิ่ง
  1. Acronis Cyber Protect
  2. Avast for Business
  3. Bitdefender GravityZone Business Security
  4. Kaspersky Endpoint Security for Business, Select
  5. Xcitium (Comodo) Advanced Endpoint Protection
  6. Check Point Harmony Basic, Advanced
  7. Heimdal Security (โปรแกรมเสริม)
  8. McAfee MVision Plus, Standard
  9. Panda Endpoint Protection, Adaptive Defense 360
  10. Sangfor Endpoint Secure - Essential, ULTIMATE
  11. Symantec Endpoint Protection
  12. Trendmicro ApexOne
  13. Webroot
  14. Vipre

Application Control - ระบบควบคุมการใช้งานโปรแกรม

ควบคุมการใช้งานโปรแกรม
Application Control
การควบคุมการใช้งานแอปในเครื่อง และการติดตั้ง ใช้งานโปรแกรมที่ไม่ได้รับอนุญาต ที่อาจเสี่ยงต่อแพร่ไวรัส หรือผิดกฎหมาย หรือ การเปิดใช้งานโปรแกรมในช่วงเวลาที่กำหนดไว้เป็นต้น การใช้งานระบบนี้ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานในองค์กร ได้เป็นอย่างดีย่ิง ตัวอย่างเช่น การไม่อนุญาตให้พนักงานเปิด Facebook หรือ LINE ในระหว่างเวลางาน แต่อนุญาตเฉพาะพักเที่ยง หรือหลังเลิกงาน เป็นต้น โปรแกรมแอนตี้ไวรัสหลายค่าย ได้ทำตรงนี้ให้ เพื่ออำนวยความสะดวก ในการทำงานในองค์กรเป็นอย่างดียิ่ง
  1. Acronis Cyber Protect
  2. Avast for Business
  3. Bitdefender GravityZone Business Security
  4. Kaspersky Endpoint Security for Business, Select
  5. Xcitium (Comodo) Advanced Endpoint Protection
  6. Check Point Harmony Basic, Advanced
  7. Heimdal Security (โปรแกรมเสริม)
  8. McAfee MVision Plus, Standard
  9. Panda Endpoint Protection, Adaptive Defense 360
  10. Sangfor Endpoint Secure - Essential, ULTIMATE
  11. Symantec Endpoint Protection
  12. Trendmicro ApexOne
  13. Webroot
  14. Vipre

Device Control - ควบคุมการใช้งานอุปกรณ์เสริม

ควบคุมอุปกรณ์ภายนอกได้
Device Control
คุณสมบัตินี้ ช่วยให้ผู้บริหารระบบ สามารถควบคุมได้จากส่วนกลาง ในการที่ผู้ใช้งาน เอาอุปกรณ์ภายนอกเข้ามาเสียบใช้งาน โดยไม่ได้ลงทะเบียนอุปกรณ์ก่อนไม่ได้ เป็นต้น ช่วยป้องกันรั่วไหลของข้อมูลได้ และป้องกันการนำเอาอุปกรณ์ที่อาจมีไวรัสแฝงตัวมา มาใช้ในองค์กร แล้วทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงได้
  1. Acronis Cyber Protect
  2. Kaspersky Endpoint Security for Business
  3. Bitdefender GravityZone Business Security
  4. Check Point Harmony
  5. Xcitium (Comodo) Advanced Endpoint Protection
  6. Panda Adaptive Defense 360
  7. Heimdal Security (โปรแกรมเสริม)
  8. McAfee MVision Standard
  9. Trendmicro ApexOne
  10. Sangfor Endpoint Secure - Essential, ULTIMATE
  11. Symantec Endpoint Protection

AI, Machine learning - ระบบเรียนรู้อัจฉริยะ

ระบบเรียนรู้อัจฉริยะ
AI, Machine Learning
ในขณะนี้โปรแกรมป้องกันไวรัสทุกยี่ห้อ ได้นำเอาระบบ AI และ machine learning รวมมาให้ในโปรแกรมแล้วทุกยี่ห้อ กลายเป็นมาตรฐานใหม่ ของระบบโปรแกรมป้องกันไวรัสสมัยนี้ไปแล้ว แต่ถึงแม้ทุกยี่ห้อ จะมีโปรแกรมป้องกันไวรัสที่มี AI ก็จริง แต่ละยี่ห้อ จะมีความสามารถไม่เหมือนกัน ส่วนยี่ห้อไหนดีกว่าใคร ตรวจจับได้ดีกว่า มีข้อผิดพลาดน้อยกว่า ต้องดูกันที่สถิติ และรางวัล ที่ได้รับ ในการทดสอบจากองค์กรระดับโลก
  1. Acronis Cyber Protect
  2. Avast for Business
  3. AVG Antivirus
  4. Bitdefender GravityZone Business Security
  5. Kaspersky Endpoint Security for Business, Select
  6. Xcitium (Comodo) Advanced Endpoint Protection
  7. Check Point Harmony Basic, Advanced
  8. Heimdal Security (โปรแกรมเสริม)
  9. Malwarebytes Endpoint Protection
  10. McAfee MVision Plus, Standard
  11. Panda Adaptive Defense 360
  12. Sangfor Endpoint Secure - ULTIMATE
  13. Symantec Endpoint Protection
  14. Trendmicro ApexOne
  15. Webroot
  16. Vipre

Server Only Edition - ใช้กับเครื่องเซอร์ฟเวอร์เท่านั้น

เซอร์ฟเวอร์เท่านั้น
Server Only
สำหรับท่านที่ต้องการนำไปใช้กับเครื่องเซอร์ฟเวอร์อย่างเดียว ซึ่งจะไม่นิยมกันแล้ว เพราะว่า ทุกรุ่นที่ขายอยู่ สามารถใช้กับเครื่องเซอร์ฟเวอร์ได้อยู่แล้ว แต่จะมีการกำหนดจำนวนขั้นต่ำ ที่ 5 หรือ 10 แล้วแต่ยี่ห้อ สำหรับการใช้งานกับเครื่องเซอร์ฟเวอร์อย่างเดียว ซึ่งอาจไม่ได้ผลในการป้องกันไวรัสที่ดี เพราะการป้องกันที่ได้ผล ต้องลงหมดทุกเครื่อง ปัจจุบัน ยังมีทำอยู่ยี่ห้อเดียวคือ
  1. AVG File Server Business Edition

Local Support - บริการหลังการขายในประเทศ

บริการในประเทศ
Local Support
ยี่ห้อที่มีตัวแทนแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ และมีเจ้าหน้าที่ที่ได้รับใบรับรองการอบรมด้านเทคนิค ประจำการในประเทศไทย จะทำให้ท่านได้รับความมั่นใจ ในการขอความช่วยเหลือ ตอบคำถามที่จำเป็น ในเวลาอันรวดเร็วมากกว่า ยี่ห้อที่ไม่มีตัวแทนแต่งตั้ง ในประเทศ และต้องทำการส่งอีเมล ขอความช่วยเหลือ ให้แก้ปัญหาใดๆ ไปยังต่างประเทศ ซึ่งปกติจะใช้เวลาค่อนข้างนาน เป็นหลายๆ วัน ถึงสัปดาห์ กว่าจะได้รับการแก้ไข บางปัญหากว่าจะแก้ได้ตรงจุด ก็ใช้เวลานานเป็นเดือนเป็นต้น
  1. Bitdefender GravityZone Business Security
  2. Kaspersky Endpoint Security for Business, Select
  3. Xcitium (Comodo) Advanced Endpoint Protection
  4. Check Point Harmony Basic, Advanced
  5. Heimdal Security (โปรแกรมเสริม)
  6. McAfee MVision Plus, Standard
  7. Panda Endpoint Protection, Adaptive Defense 360
  8. Sangfor Endpoint Secure - Essential, ULTIMATE
  9. Trendmicro ApexOne
คุณสมบัติเฉพาะ สำหรับการป้องกันระดับสูง

EDR (Endpoint Detection and Response) - ไฟล์ต้องสงสัยไม่มั่นใจส่งแล็ปตรวจได้ทันที

ส่งไฟล์ต้องสงสัยตรวจสอบได้
EDR
มีหลายค่ายที่นำเอา EDR มาให้บริการ ในรุ่นท๊อป ด้วยคุณสมบัติของ EDR (Endpoint Detection and Response), XDR (Extended Detection and Response), MDR (Managed Detection and Response) จะช่วยอำนวยความสะดวก สำหรับองค์กรขนาดใหญ่ ในการส่งไฟล์ ที่ต้องสงสัย ไปให้ทางแล๊ปตรวจสอบ และแจ้งผลกลับมาอย่างรวดเร็ว ทำให้ลดความผิดพลาดในการปล่อยให้ไฟล์ที่มีไวรัสเข้ามาในองค์กรได้โดยไม่รู้ตัว หากท่านต้องการคุณสมบัตินี้ ท่านต้องเลือกยี่ห้อ และรุ่นดังต่อไปนี้เท่านั้น
  1. Acronis Cyber Protect
  2. Check Point Harmony Basic, Advanced
  3. Xcitium (Comodo) Advanced Endpoint Protection
  4. Bitdefender GravityZone Ultra
  5. Panda Adaptive Defense 360
  6. Kaspersky Endpoint + EDR (ต้องซื้อเพิ่ม)
  7. Malwarebytes Endpoint Protection and Response
  8. Sangfor Endpoint Secure - ULTIMATE
  9. Symantec Protection Suite Enterprise Edition (Server + EDR)
  10. Trendmicro

Sandbox - รันไฟล์ต้องสงสัยบนระบบจำลองได้

มีระบบจำลองในตัว
Sandbox
การที่มีตัวจำลอง หรือ sandbox จะช่วยทำให้โปรแกรมสามารถนำเอา โปรแกรมต้องสงสัยมารันบนระบบเสมือนก่อน โดยมีการจับพฤติกรรม ในการทำงานของตัวโปรแกรมนั้นๆ หากเกิดเป็นไวรัสจริง ก็จะไม่สร้างความเสียหายจริงๆ ได้ ระบบป้องกันที่มี sandbox มาให้ด้วย จึงมีความสามารถที่จะป้องกันไวรัส ตัวที่สงสัย ได้มีประสิทธิภาพมากกว่า โปรแกรมที่ไม่มีระบบปฏิบัติการจำลอง ตอนนี้ โปรแกรมที่มีระบบจำลอง ให้ไวรัสปฏิบัติการโดยไวรัสไม่สามารถ สร้างความเสียหายได้บนระบบที่กำลังใช้งานจริง เป็นระบบการทำงานระดับสูงเท่านั้น มีให้เลือกดังนี้
  1. Bitdefender GravityZone ULTRA
  2. Check Point Harmony Advanced
  3. Xcitium (Comodo) Advanced Endpoint Protection
  4. Malwarebytes Endpoint Protection and Response
  5. Sangfor Endpoint Secure - ULTIMATE

DLP (Device Lock Protection) - ระบบป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล

กันข้อมูลรั่วได้
Device Lock Protection
สำหรับโปรแกรมป้องกันไวรัสที่รวมคุณสมบัติของ DLP ให้ไปด้วยในตัว จะเป็นคุณสมบัติด้านพื้นฐานเท่านั้น ในการกำหนดสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูล ที่สำคัญขององค์กร หากท่าน ต้องการความสามารถระดับสูง ในการจัดการข้อมูลถึงระดับไฟล์ เช่น หากมีคำว่า ห้ามลบ และเปลี่ยนแปลง ในไฟล์ จะป้องกันไฟล์นั้นๆ ไม่ให้ถูกแก้ไข หรือลบได้เป็นต้น โปรแกรมป้องกันไวรัส สำหรับ DLP พื้นฐาน และโปรแกรมควบคุม DLP เฉพาะมีดังนี้
  1. Acronis Cyber Protect
  2. Check Point Harmony Advanced
  3. Xcitium (Comodo) Advanced Endpoint Protection
  4. FortiClient
  5. Trendmicro ApexOne
  6. McAfee Complete Data Protection - Advanced
  7. Manage Engine (เป็นโปรแกรมบริหารจัดการ ไม่ใช่ป้องกันไวรัส)

Data Encryption - เข้ารหัสไฟล์ หรือทั้งเครื่อง

เข้ารหัสเพื่อความปลอดภัย
Data Encryption
การเข้ารหัสไฟล์ หรืออุปกรณ์ปลายทาง จะเหมาะอย่างยิ่ง สำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในองค์กร ที่มีข้อมูลที่สำคัญ จึงต้องป้องกันความเสี่ยงในการถูกโจรกรรมข้อมูล แม้จะโดยตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจ หากอุปกรณ์มีการเข้ารหัสแล้ว เกิดเหตุไม่คาดฝัน เช่น เครื่องหาย เครื่องเสีย นำไปซ่อมเป็นต้น บุคคลภายนอก ไม่สามารถนำเอาฮาร์ดดิสออกมา เพื่อทำการรีเซทรหัสผ่าน แล้วเปิดดูข้อมูลได้เลย นอกจากฟอร์แมตอย่างเดียว ระบบการเข้ารหัสนี้ สามารถควบคุมได้จากส่วนกลาง จึงเป็นการอำนวยความสะดวกในการบริหารจัดการ สำหรับผู้ดูแลระบบได้เป็นอย่างดียิ่ง
  1. Acronis Cyber Protect (Optional)
  2. Check Point Harmony Advanced
  3. McAfee Complete Endpoint Protection - Business
  4. Manage Engine (เป็นโปรแกรมจัดการการเข้ารหัส ไม่ใช่ป้องกันไวรัส)

Built-in RDP - เปิดรีโมทไปที่เครื่องปลายทางได้

สั่งการระยะไกลเหมือนอยู่หน้าเครื่อง
Remote Desktop
RDP จะช่วยประหยัดเวลาให้กับผู้ดูแลระบบได้เป็นอย่างดีย่ิง ทำให้ไม่จำเป็นต้องไปลงโปรแกรมอื่นๆ เพิ่มเติม ในการที่จะรีโมทไปแก้ไขปัญหา ที่เครื่องปลายทาง ภายในองค์กร ได้เหมือนกับนั่งอยู่หน้าเครื่องเลย การลงโปรแกรมบริหารงานระยะไกล (RDP) มีความเสี่ยง อาจทำให้เกิดช่องโหว่ ในการโดนแฮ็ค เข้ามาจากข้างนอกได้ ดังนั้น หากมีโปรแกรมเสริม จากค่ายแอนตี้ไวรัส ที่ทำมาให้ใช้งานแล้วในตัวเอง จะช่่วยลดความเสี่ยงในการถูกโจมตี ผ่านช่องทางนี้ ได้เป็นอย่างดี มียีห้อและรุ่น ที่สนับสนุนการใช้งาน RDP ได้ในตัวดังนี้
  1. Acronis Cyber Protect
  2. Xcitium (Comodo) Advanced Endpoint Protection (มีให้ในตัว)
  3. Heimdal Security (ซื้อโมดูลเพิ่มในส่วนของ RDP)
  4. Panda System Management (เป็นโปรแกรมเสริม สำหรับบริหารในองค์กร ไม่ใช่ป้องกันไวรัส ซื้อพ่วงกับโปรแกรมหลักได้)
  5. Sangfor Endpoint Secure - ULTIMATE

Patch Management - ระบบช่วยอัปเดตโปรแกรมต่างๆ ให้ทันสมัยเสมอ

อัปเดตให้อัตโนมัติ
Patch Management
ช่วยจัดการเรื่องการอัปเดตโปรแกรมต่่างๆ ในเครื่องลูกข่าย โดยมีระบบบริหาร การแจ้งเตือน ผ่านคอนโซลเดียว เป็นศูนย์กลาง ทำให้ผู้ดูแลระบบ ประหยัดเวลาในการทำงานได้มาก บางโปรแกรมมีแถมโปรแกรม ในการรีโมทสนับสนุนให้ใช้ในตัวด้วย ไม่ต้องเดินไปที่หน้าเครื่อง เวลาเครื่องมีปัญหา หรือต้องการแก้ไขใดๆ
  1. Avast Patch Management (โปรแกรมเสริม)
  2. Heimdal Security (โปรแกรมเสริม)
  3. Panda Systems Management (โปรแกรมเสริม)
  4. Xcitium (Comodo) Advanced Endpoint Protection (built-in)
  5. Malwarebytes Endpoint Protection (โปรแกรมเสริม)
  6. Manage Engine (เป็นโปรแกรมเสริม)
  7. Sangfor Endpoint Secure - Essential, ULTIMATE

Roll-back - ย้อนเวลาหาอดีตได้

ย้อนกลับได้หากโดนโจมตี
Roll-back
เป็นความสามารถพิเศษ ที่หากโดนไวรัสเรียกค่าไถ่โจมตีแล้ว แอดมิน สามารถย้อนกลับระบบไปได้ ก่อนที่จะมีการเข้ารหัสเรียกค่าไถ่ การย้อนกลับได้นี้ ทำให้เกิดความเสียหายในองค์กรได้น้อยลง และมีเวลาในการหยุดยั้ง และแก้ไขปัญหา ได้อย่างดียิ่ง แต่ส่วนใหญ่มีการจำกัดเวลา ภายใน 12-24 ชั่วโมงเท่านั้น สำหรับ Heimdal Security ต้องติดตั้งโมดูล Ransomware Encryption Protection ซึ่งจะทำการตรวจจับความพยายามในการเข้ารหัส ใดๆ ที่กระทำต่อไฟล์ และโฟลเดอร์ในเครื่อง หากตรวจพบ มันจะทำการหยุดการทำงานให้ทันที ทำให้แรนซั่มแวร์ ไม่สามารถเข้ารหัสไฟล์ข้อมูลของลูกค้าได้สำเร็จ ส่วนของ Panda AD360 จะเพิ่มความสามารถ ด้านการป้องกัน shadow copy ซึ่งมีอยู่ในระบบวินโดว์อยู่แล้ว ไม่ให้ถูกทำลาย การทำงานเช่นเดียวกับของ Malwarebytes ทำให้นำไฟล์เหล่านี้ กู้คืนกลับมาได้ แม้จะโดนโจมตีแล้วก็ตาม
  1. Acronis Cyber Protect
  2. Heimdal Security (โปรแกรมเสริม)
  3. Xcitium (Comodo) Advanced Endpoint Protection (EDR)
  4. Check Point Harmony Advanced (EDR)
  5. Panda AD360 (EDR)
  6. Malwarebytes Endpoint Protection and Response (EDR)

Mobile Control - ใช้ลงบนมือถือได้

ลงมือถือได้
Mobile Control
อุปกรณ์เคลื่อนที่ เช่น โทรศัพท์มือถือ และแท๊บเล็ต บนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android อาจมีข้อจำกัดในการใช้งาน อันเกิดจากระบบโอเอส ไม่เอื้ออำนวย แต่สำหรับมือถือ แอนดรอยด์ ผู้ดูแลระบบ สามารถใช้ติดตามได้ว่าเครื่องอยู่ที่ไหน สามารถสั่งเปิดกล้องได้และถ่ายรูปส่งมาได้ จากระยะไกลเป็นต้น แต่ละยี่ห้อ มีึคุณสมบัติในการใช้งานต่างๆ กันไป
  1. Avast Mobile Edition
  2. AVG Mobile Edition
  3. Bitdefender GravityZone
  4. Xcitium (Comodo) Advanced Endpoint Protection
  5. Panda Adaptive Defense 360
  6. McAfee MVision Plus
  7. Symantec Endpoint Security Enterprise

โปรดตรวจสอบคุณสมบัติข้างบนว่า ท่านมีความจำเป็นต้องการใช้คุณสมบัติด้านไหนบ้าง จะทำให้ท่านสามารถประหยัดเวลาในการเลือกซื้อ และงบประมาณของท่าน ได้ดีที่สุด เรายินดี ให้คำปรึกษาในการเลือกซื้อโปรแกรมป้องกันไวรัสที่ดีที่สุด สำหรับองค์กรของท่าน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะได้รับใช้ธุรกิจของท่านในอนาคตอันใกล้นี้

ขอราคาพิเศษ ย้ายค่าย เปลี่ยนยี่ห้อ ได้ของใหม่ดีกว่าเดิม

แอนตี้ไวรัส ประเทศไทย โดย บจก. อมิเพลย์
antivirusthailand.com , 2024